วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

ศัพท์น่ารู้ในวงการนิยาย

ในวงการนิยายนั้นจะมีการใช้คำศัพท์บางคำที่สร้างความไม่กระจ่างแก่ผู้พบเห็น อาจด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่การใช้คำศัพท์เหล่านี้สร้างความปวดหัวแก่ผ็พบเห็นไม่น้อยวันนี้ผมเลยรวบรวมศัพท์พวกนี้ผ่านประสบการณ์ที่ผ่านมา ให้ได้ชมกัน

Y
Yย่อมาจาก yaoi และ yuri แต่ในปัจจุบันนั้นจะสื่อถึงนิยาย yaoi เพียงอย่างเดียว

Yaoi
หรือนิยาย ชายรักชาย Boys love เป็นนิยายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักของผู้ชายสองคน ออกแนวน่ารักๆอาจจะมี เรทในระดับที่ต่างกัน อย่างไรก็ตามนิยายประเภทนี้จะมีการเขียนเตือนในหัวเรื่องแล้วสำหรับคนที่ต่อต้าน แต่ก็ยังมีการใช้ถ้อยคำรุนแรงในการวิพากษ์วิจารณ์อยู่

Yuri
นิยาย แนวหญิงรักหญิง มีเนื้อหาเป็นเรื่องราวความรักของสาวสองคนที่เป็นความรักโดยเนื้อแท้ไม่ได้คำนึงถึงรูปแบบสังคม
ส่วนใหญ่ เรทความแรงยังไม่พบเห็นโดยทั่วไป

NC
ย่อจาก No children ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ห้ามเด็กเข้าอ่านจะเป็นนิยายที่มีเนื้อหาในเรื่องเพศ มีการแบ่งเรท ไว้หลายระดับ โดยใช้เกณฑ์อายุ เช่น NC18 NC21 อย่างไรก็ตามนิยายประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามีความหมกมุ่นหรือเป็นเรื่องไม่ดี เพราะว่าการอ่านหนังสือนั้นไม่ว่าจะเป็นหนังสือนิยาย หรือจะเป็นหนังสือความรู้สิ่งที่ขาดไม่ได้คือวิจารณญาณในการอ่าน ในนิยายทุกเรื่องที่มีฉาก NC จะมีการแจ้งเตือนไว้แล้ว จึงควรอ่านก่อนเข้าไปอ่าน

H
เป็นตัวย่อของ Hentai ซึ่งเเปลจากภาษาญี่ปุ่นคือ ซึ่งเเปลกๆ หรือเรื่องราวเเปลกเเต่อย่างไรก็ดีภายใต้สังคมอินเทอร์เน็ตกลับ เเปลว่านิยายประเภทลามกหรือไม่เหมาะสม แต่ส่วนใหญ่แล้ว คำว่า Hentai นั้นจะถูกใช้ในวงการการ์ตูนมากกว่า

อย่างที่อ่านมานั้นว่าการอ่านนิยายนั้นขึ้นอยู่กับเจตนาและความคิดของคนแต่ละคนหากว่าเรามีแนวความคิดที่ไม่ดีถึงอ่านหนังสือพระธรรมก็สามารถคิดในแง่ลบได้ การอ่านนิยาย Y หรือ NC ก็ถือเป็นสิทธิที่พึงมีของคนแต่ละคนหากว่ามีความไม่พอใจในนิยายประเภทใดก็ควรเพียงปิดมันหรือเปิดผ่าน ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคายที่แสดงถึงระดับความคิดของตนในการด่าทอผู้อื่น

แนวทางการเเต่งนิยาย

การแต่งนิยายที่ดีนั้นมีหลักการที่ค่อนข้างง่ายแต่การปฏิบัติจริงนั้นค่อนข้างยาก
ผมมีแนวทางดีๆมานำเสนอนะคับหวังว่าจะช่วยได้บ้างในการลองแต่งนิยายสักเรื่องหนึ่ง
1.       เราต้องวางแนวทางที่เราต้องการเขียนไม่ว่าจะเป็นแนวทางของเรื่อง เค้าโครงของเรื่องหรือว่าจะเป็นว่านิยายที่เราจะแต่งนั้นเราจะให้มีแนวทางหรือตอนจบอย่างไรสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องคิดและวางแผนก่อนที่เราจะลงมือเขียนนิยายขึ้นมาสักเรื่องหนึ่งแต่อย่างไรก็ดีเราก็ไม่ควรนำเค้าโครงของเรื่องหรือแนวทางที่เราวางไว้มาเป็นกรอบในการจำกัดเราเพียงแต่ ให้นำกรอบเหล่านี้มาเป็นแนวทางไม่ให้นิยายของเราหลงออกทะเลไป
2.       เขียนแผนผัง หลายคนอาจจะมีวิธีการที่ต่างกันแต่อย่างน้อยก่อนที่เราจะเริ่มเขาสู่เนื้อหาเราก็ควรมีบรรณานุกรมความคิดของเราเอง อาจเป็นการประมวลความคิดของเรา ไม่แน่ว่าระหว่างที่เรานั่งรถเมล์ หรือเดิน ช้อปปิ้งเราอาจมีไอเดียดีๆออกมา ฉะนั้นสิ่งที่เราจะขาดไม่ได้คือสมุดจดเล็กในกระเป๋าของเราที่จะสามารถนำออกมาจดความคิดหรือสิ่งที่มันพรั่งพรูออกมา เชื่อเถอะครับว่าหลายครั้งที่เรานึกอะไรดีๆออกมาได้และคิดว่าเดี๋ยวกลับไปแล้วค่อยจัดการกับมัน แต่พอเราไปถึงที่หมาย ความคิดนั้นมันก็เหมือนจะบินหนีไปเสียแล้ว หลังจากที่เราจดแล้วความคิดที่ได้มานั้นจะดูไร้ระเบียบแบบแผน เหมือนตัวจิ๊กซอว์ที่เรามีเพียงส่วนเดียวการวางแผนผังนั้นก็เหมือนกับการจัดกรอบให้จิ๊กซอว์นี้โดยการรวบรวม ชิ้นส่วนต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อรอวันประกอบเข้าด้วยกัน
3.       การวางตัวละครและการคิดชื่อต่างๆ นี่คือปัญหาที่ผมพบบ่อยที่สุดและปวดหัวที่สุด เพราะไม่รู้ว่าเราจะเอาชื่อไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง ฯลฯ  จุดนี้เหมือนกับว่าเราจะงมเข็มในมหาสมุทร ไม่ว่าเราจะมีวิธีส่วนตัวใดล้วนถูกงัดออกมาใช้กันหมด เคยมีนักเขียนชื่อดังท่านหนึ่งให้แนวทางน่ารักๆ มาว่า เราก็เปิดแอตลาส ขึ้นมาแล้วก็ไล่กันเลยชื่อเมือง ชื่อแม่น้ำชื่อไหนมันเพราะๆ น่าฟังก็เอามาสักชื่อ ในส่วนการเลือกชื่อนี้จึงแล้วแต่วิธีการส่วนบุคคลนะครับใครมีคำแนะนำยังไงก็ช่วยบอกด้วยเพราะหลายครั้งที่ผมปวดหัวกับการหาชื่อดีมาใช้ไม่ได้จริงๆ
4.       เมื่อเรามีแนวทาง แผนผัง ตัวละคร ครบหมดแล้วหลายท่านก็คิดว่าคงได้เวลาลงมือจริงกันแล้ว จริงๆก็ลงมือเลยก็ได้นะครับ หรือเราจะเอาให้มันแน่นเข้าไปอีกเราก็วาดภาพๆนึงขึ้นมาครับเป็นภาพที่เราทำเหมือน mine map ว่า ช่วงเวลาต่างที่เราจะเขียนนั้นอะไรเกิดก่อนเกิดหลังหรือว่าส่วนไหนจะเป็นส่วนเสริมโครงเรื่องหลักในช่วงใดทั้งหมดนี้เราควรวางแผนไว้นะครับเพราะว่าการที่เราเขียนไปวางแนวทางไปบางครั้งพอรีบๆ หรือเกิด เหตุการณ์ที่มันไม่คาดคิดขึ้นอย่างน้อยการที่เราเอาสิ่งต่างๆที่เราทำมาเปิดดูก็จะให้เราสามารถหาวิธีการแก้ไขได้นะครับ
บทความนี้ก็เป็นแนวทางที่ผมได้เจอและลองรวบรวมมาเขียนให้ได้ดูกันนะครับไม่ได้เป็นข้อบังคับแต่อย่างใดคิดว่าเป็นข้อแนะนำ สำหรับผู้ที่มีความคิดอยากจะสรรสร้างเรื่องราวดีๆแต่ยังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน ถ้ามีข้อคิดเห็นหรือความคิดอย่างไรก็สามารถมาแชร์กันได้นะครับ