วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

รอยยิ้มก้องโลก

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ วันนี้ผู้เขียนได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ห่างหายจาก บล็อกไปนานกว่าสองเดือน ว้าวววว อย่าได้ตกใจนะครับว่าผู้เขียนหายไปไหน ผู้เขียนได้รับโอกาสในการเป็นนักเขียนให้กับนิตยสารที่ผลิตเองเล่มหนึ่ง แต่อย่าพึ่งตื่นเต้นไปครับเพราะในครั้งนี้ผู้เขียนยังไม่ได้จะมานำเสนอถึงนิตยสารเล่มดังกล่าว แต่ในครั้งนี้ผู้เขียนจะขอนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องราวหนึ่ง ของภาพวาดที่ได้ชื่อว่าเป็นปริศนาชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งของโลกนี้ ขอเชิญพบกับรอยยิ้มปริศนาของ 
 ลาโชกงด์ หรือ โมนาลิซา

 โมนาลิซา(Mona Lisa) หรือ ลาโชกงด์ (La Gioconda, La Joconde) คือภาพวาดสีน้ำมัน สูง 77 เซนติเมตร กว้าง 53 เซนติเมตร ซึ่งวาดโดย เลโอนาร์โด ดา วินชี ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นภาพที่ทั่วโลกรู้จักกันดีภาพหนึ่ง ในฐานะสุภาพสตรีที่มี รอยยิ้มอันเป็นปริศนา ที่ไม่รู้ว่าเธอจะยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้กันแน่ ปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของรัฐบาลฝรั่งเศส และเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 


     กว่า 500 ปีมากแล้วกับคำถามที่ว่า โมนา ลิซ่า (Mona Lisa) นั่นเป็นใคร ซึ่งยังเป็นปริศนา และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนและแน่นอน ว่าบุคคลในภาพเขียนของ ลีโอนาร์ โด ดา วินซี่ (Leonardo da vin Ci ) คือใครกันแน่

เชื่อหรือไม่ครับว่าภาพวาดภาพนี้ ได้มีคนสันนิษฐาน ว่าเป็นบุคคลต่างๆไว้มากมายเนื่องจาก ผู้หญิงในภาพดังกล่าวไม่ใช่บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ หรือเป็นที่รู้จัก แต่ก็ได้มีคนรุ่นหลังหลายคนที่ได้ตั้งขอสันนิษฐานต่างๆไว้เกี่ยวกับเธอ เช่น

         
          โมนา ลิซ่า ก็คือภรรยาของ ฟรานเชสโก เดล จิโอกอนโด ซึ่งเป็นพ่อค้าไหมที่มั่งคั่งแห่ง เมืองฟลอเรนซ์ ขณะที่ ดาวินซี่ เขียนภาพนี้ซึ่งได้ใช้เวลานานถึง 4 ปี เขาได้ไปว่าจ้าง นักร้อง นักดนตรี และตัวตลกมาให้ความบันเทิงแก่หญิงงามผู้เป็นแบบของ ภาพเขียน เพื่อให้เธอมีรอยยิ้มที่ปราศจากความเศร้าหมอง อย่างไรก็ตามจากคำ บรรยายของ วาซารี ก็เป็นเพียงข้อมูลจากผู้ที่ไม่เคยเห็นภาพเขียนนี้ของ ลีโอนาร์โด แต่อย่างใด  

       หรืออีกกระเเสหนึ่งบอกว่าเเท้ที่จริงแล้วบุคคลในภาพนั้นไม่ใช่ผู้หญิงดั่งที่ทุกคนคิดแต่เป็นภาพของเด็กหนุ่มรูปงามคนหนึ่งที่เเต่งกายเป็นผู้หญิง ซึ่งประจวบเหมาะว่า มีข่าวลือว่าจิตกรคนดังของเรานั้นเป็น บุคคลที่รักร่วมเพศ ทฤษฎีนี้จึงยังไม่ถูกมองว่าไร้สาระไป หรือเเม้กระทั่งมีคนสันนิษฐานต่อว่าความจริงแล้ว ภาพวาดดังกล่าวนั้นคือตัว  ลีโอนาร์ โด ดา วินซี่ เองนั้นละที่เเอบจำเเลงเเปลงกายตนเองเป็นผู้หญิง 

ช่างเเตกต่างกันอย่างมากเลยนะครับสำหรับสองข้อสันนิษฐานที่ผู้เขียนได้เห็นมา แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนคิดว่าไม่ว่าบุคคลในภาพนี้จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะเป็นบุคคลที่มีตัวตนหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถถกเถียงได้เลยนั้นก็คือ ภาพวาดภาพนี้คือภาพวาดที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลกภาพหนึ่ง สวยงามจนถึงขั้นมีคนเคยขโมย ภาพวาดนี้ไปเเอบไว้ถึง 2 ปี กว่ารัฐบาล ฝรั่งเศส จะหาทางช่วยเหลือเธอออกมาได้ หากจะให้ผู้เขียนบอกว่าในชีวิตนี้หากไม่ได้ไปพบเห็นรอยยิ้มของเธอที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ สักครั้งในชีวิต ผู้เขียนคงจะเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าใครก็คงอยากจะได้ไปเห็นใบหน้าและรอยยิ้มที่ชื่อว่า เป็นปริศาที่ไม่มีวันไขออก สักครั้งในชีวิตครับ

หากท่านผู้อ่านท่านได้ เคยหรือมีโอกาสที่ได้ไปยลโฉมสาวงามคนนี้ก่อนผู้เขียนก็ช่วยฝากบอกเธอหน่อยนะครับว่า ขอเวลาผู้เขียนเก็บหอมรอมริบ อีกสัก ห้าปีสิบปี แล้วจะไปขอยืนจ้องหน้าเธอสักครึ่งวัน อย่พึ่งให้หล่อนหนีไปไหนเสียก่อนละ 

       ในวันนี้ก็ต้องขออภัยท่านผู้อ่านด้วย ถ้าเนื้อหาหรือบทความที่นำเสนอในวันนี้ออกจะมีสาระน้อยไปสักนิดหนึ่ง แต่ผู้เขียนขอสัญานะครับว่าจะหมั่นนำข้อมูลและเรื่องราวที่น่าสนใจ มานำเสนอให้ผู้อ่านได้อ่านกันอีกเเน่นอนครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น